เตือนภัย ถูกเห็บกัดเอาออกไม่ถูกวิธี อาจเป็นอัมพาตชั่วคราว
วันที่ 26 ก.ค. 2563 ตามที่มีข่าวเตือนภัยปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องถูกเห็บกัดเอาออกไม่ถูกวิธี อาจเป็นอัมพาตชั่วคราว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
เห็บมีหลายชนิด และเป็นพาหะนำโรคติดเชื้อ มักอาศัยอยู่บริเวณต้นหญ้าสูงๆ หรือเกาะอยู่กับสัตว์เลี้ยง เช่น หมา หรือ แมว ซึ่งถ้าถูกเห็บกัดจะไม่มีอาการเจ็บ เพราะในน้ำลายของเห็บมีสารที่ทำให้เกิดอาการชาเฉพาะที่ แต่อาการที่เห็นชัดเจน คือมีตุ่มนูนบวมแดง ในบางรายที่มีอาการแพ้อาจมีไข้ หรือผื่นลมพิษกำเริบได้ ดังนั้นการรักษาที่ถูกวิธีจะช่วยให้หายจากอาการผื่น บวมแดง หรือแม้กระทั่งอาการอัมพาตชั่วคราวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อถูกเห็บกัดเบื้องต้นให้คีบหัวของเห็บแล้วค่อยดึงออกขึ้นตรง ๆ แต่ต้องระวังอย่าคีบบริเวณลำตัว หรือท้องของเห็บ และไม่บิดคีมขณะที่กำลังคีบเพราะจะทำให้ส่วนปากของเห็บยังคงค้างอยู่ในผิวหนัง จะทำให้อาการเรื้อรังตามมาได้ หลังจากเอาตัวเห็บออกใช้ยาทาลดการอักเสบ บวมแดง ในกรณีที่อาการบวมแดงรุนแรงจำเป็นต้องฉีดยาใต้ผิวหนังแต่ต้องให้แพทย์พิจารณาการรักษาเฉพาะราย โดยทั่วไปอาการที่เกิดจากเห็บกัดมีเพียงอาการเฉพาะที่ พบน้อยมากในรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เกิดอัมพาตหลังจากถูกเห็บกัด ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัวจากนั้นระยะเวลาไม่นานจะเกิดเป็นอัมพาต ซึ่งภาวะนี้อาจนำไปสู่ภาวะระบบหายใจล้มเหลวเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ อาการอัมพาตมักเกิดหลังจากถูกเห็บกัด 4-6 วัน
ดังนั้นควรรีบคีบเห็บออกจากผิวหนังทันทีอาการอัมพาตก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
Cr.ANTI-FAKE NEWS CENTER THAILAND