ตะโละมาเนาะ มัสยิด 300 ปี เส้นทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้



ตะโละมาเนาะ มัสยิด 300 ปี ศูนย์แหล่งเรียนรู้ทางศาสนาอิสลาม สู่การท่องเที่ยวเส้นทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
มัสยิดตะโละมาเนาะ หรือ มัสยิดวาดิล ฮูเซ็น หรือที่ประชาชนรู้จักในนาม “มัสยิด 300 ปี” เป็นศาสนสถานในศาสนาอิสลาม ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางบริเวณเชิงเขาบูโด หมู่ 1 ข้านตะโละมาเนา : ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2167 (ซึ่งจะมีอายุครบ 400 ปี ในปี พ.ศ. 2567 เป็นมัสยิดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการยกย่องให้เป็นมัสยิดที่มีความงดงามและเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกมลา ภายในมัสยิดเป็นที่เก็บรักษาพระคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งเขียนด้วยลายมือของวันฮุซเซน อัซซานาวี อิหม่ามคนแรกของมัสยิดมัสยิดตะโละมาเนาะ




เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างโดยการใช้ไม้ตะเคียนที่มีอยู่มากในป่าบูโด มัสยิดมีรูปแบบในการออ กแบบโดยให้มีอาคารจำนวนสองหลังอยู่ติดกัน โดยอาคารมัสยิดหลังแรกกำหนดโครงสร้างให้มีหลังคาทั้งหมดสามชั้น ลักษณะของเสา อาคารแกะสลักลายดอกพิกุล สำหรับหลังคาชั้นที่สามเป็นโดมรูปเก๋งจีนแท้ อยู่บนหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผา ซึ่งในอดีตเก๋งจีนจะถูกใช้เป็นหออาซาน สำหรับโครงสร้างของอาคารมัสยิดหลังที่สองกำหนดให้มีหลังคาสองชั้น โดยหลังคาชั้นที่สองมีจั่วบนหลังคา ชั้นแรกมีฐานดอกพิกุลหงายรองรับจั่ วหลังคาอีกชั้นหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานการสร้างด้วยศิลปะทางมลา ไทย และจีน




มีคุณค่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีความงดงาม แสดงออกถึงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของพหุสังคม ควรค่าอย่างยิ่งแก่การอนุรักษ์และเผยแพร่สู่ประชาคมโลก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะหน่วยงานด้านพัฒนาในพื้นที่ จึงได้ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนา จึงต้องการผลักดันให้มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และมีความสำคัญทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมถึงความสำคัญต่อโลกมลายู

โดยกำหนดแนวคิดในการพัฒนาในสภาพพื้นที่เพื่อให้มีความสอดคล้องกับสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีคุณค่า โดยปรับสภาพภูมิทัศน์รวมถึงการก่อสร้างโดยต้องคำนึงไม่ให้มี ผลกระทบในเชิงลบตามบริบทของพื้นที่และไม่บดบังทัศนียภาพดั่งเดิมของ “มัสยิดตะโละมาเนาะ”ที่เป็นจุดเด่นและจุดศูนย์กลางหลักในการ พัฒนาสถานที่ทางวัฒนธรรมดังกล่าว จึงทำให้ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ 2565 ที่ผ่านมา กลุ่มงานศาสนาและพหุวัฒนธรรม กองส่งเสริมและ สนับสนุนงานพัฒนาฝ้ายพลเรือน ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสและหน่วยงาน ภายใต้แผนพหุวัฒนธรรมทั้งส่วนกลางและในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดประชุมหารือด้านศาสนาและวัฒนธรรมเพื่อพิจารณาโครงการ เข้าสู่การประชุมคณะกรรมกรยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ โรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี

ปัจจุบันมัสยิดตะโละมาเนาะ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ที่มีความสนใจในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และการศึกษาเรียนรู้ในสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มาชมเป็นจำนวนมาก รวมถึงได้เห็นถึงสภาพพื้นที่บริเวณกล่าวที่มีสภาพทรุดโทรม
จึงได้มีการเสนอแนวคิดให้มีการปรับปรุง พัฒนาบริเวณโดยรอบให้มีความสวยงาม สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชม รวมถึง สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมในสถาปัตยกรรมเก่แก่ที่มีคุณค่าในเชิงวัฒนธรรมและ
ศาสนาแห่งนี้มากขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *